ผู้นำในด้านลดการปล่อยคาร์บอน
การจะบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศนั้นต้องอาศัยการผสมผสานแนวทางและโซลูชันที่หลากหลายเข้าด้วยกัน ตัวอย่างหนึ่งก็คือการดักจับคาร์บอนเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ โครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCU) นับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และ SABIC ก็คือผู้บุกเบิกแนวทางดังกล่าว
ในปี 2015 เราได้เปิดโรงงานดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCU) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกของโลกที่ United ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SABIC โรงงานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีเอกสิทธิ์ในการดักจับ CO2 ได้ถึง 500,000 เมตริกตัน (MT) ต่อปี จากการผลิตเอทิลีนไกลคอลซึ่งไม่เช่นนั้นก็จะถูกปล่อยออกไปยังชั้นบรรยากาศโดยเปลี่ยนให้กลายเป็นวัตถุดิบสำหรับกระบวนการทางอุตสาหกรรม ถ้าลองเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือจะต้องปลูกต้นไม้กว่า 11 ล้านต้นเพื่อดักจับคาร์บอนในปริมาณที่เท่ากันนี้
ถึงแม้การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) จะเป็นประเด็นสำคัญและเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองปัญหาสภาพอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง แต่ก็จำเป็นต้องมีการดักจับและกักเก็บ CO2 เอาไว้ใต้ดินแต่การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCU) นั้นจะต้องใช้แนวทางในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะกรองให้บริสุทธิ์แล้วจึงส่งต่อผ่านเครือข่ายไปยังบริษัทในเครือของ SABIC เพื่อใช้ในการผลิตองค์ประกอบสำคัญ อาทิ ปุ๋ยยูเรียที่ช่วยให้ผลิตผลงอกงามงาม เมทานอลสำหรับผลิตสารเคมีอื่นๆ ที่ใช้กันแพร่หลาย รวมถึง CO2 แบบเหลวซึ่งใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
การนำเอา CO2 ในรูปแบบของผลิตผลพลอยได้ที่เลี่ยงไม่ได้ของกระบวนการผลิตเอทิลีนไกลคอลนั้นนับเป็นการสร้างมูลค่าได้อย่างดีเยี่ยม แทนที่จะเพียงแค่ลดการปล่อยก๊าซ CO2 แต่สารประกอบนี้กลับสามารถกลับกลายเป็นคุณค่าที่เปี่ยมประโยชน์ ในขณะ ที่คนอื่นมองว่าเป็นข้อด้อย
จากความท้าทายที่ CCS ต้องเผชิญทั้งความไม่แน่นอนด้านความจุของพื้นที่จัดเก็บและเสียงคัดค้านจากสาธารณชน เราเชื่อว่าหากต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างยั่งยืนนั้น เราจะต้องพิจารณาถึงทางเลือกและเทคโนโลยีต่างๆที่ส่งเสริมกันทั้งหมด